Express Software

14098 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Express Software



เอ็กซ์เพรส
โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูปซึ่งรวบรวมระบบบัญชีถึง 12 ระบบเข้าไว้ด้วยกันเป็นโปรแกรมเดียว และข้อมูลจะเชื่อมโยงถึงกันโดยอัตโนมัติ ทำให้ลดขั้นตอนในการทำงาน เพียงแค่ทำการบันทึกข้อมูลรายวันการซื้อและการขายเท่านั้นเอง ต่อจากนั้นโปรแกรมจะทำหน้าที่นำข้อมูลไปบันทึกในแต่ละระบบที่เกี่ยวข้องให้เองโดยอัตโนมัติ และสามารถพิมพ์รายงานทุกรายงานได้ทันที ทำให้ท่านสามารถทราบผลการดำเนินงานได้ภายในอึดใจเดียว
โปรแกรมทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows สำหรับระบบเครือข่าย (LAN) สามารถใช้ได้ไม่จำกัดตัวลูก รองรับธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็ก จนถึงธุรกิจขนาดใหญ่เพราะข้อมูลคีย์ได้ไม่จำกัด ประเภทธุรกิจที่รองรับได้แก่ ซื้อมา-ขายไป, บริการ, รับเหมา-ก่อสร้าง, นำเข้า, การผลิต และอื่นๆ ในปัจจุบันมีลูกค้าที่ใช้โปรแกรมอยู่กว่า 40,000 ราย ซึ่งลูกค้า

ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่ได้รับการแนะนำต่อๆ กันมา Express มีจุดเด่นทางด้าน การให้บริการ เพราะเวลาที่ลูกค้ามีปัญหาโทรมาสอบถาม สามารถทำงานต่อได้ทันที

โปรแกรมบัญชี Express ประกอบไปด้วยระบบงานหลัก ๆ 12 ระบบ ดังต่อไปนี้

 

ระบบบัญชีแยกประเภท
ข้อมูลส่วนใหญ่จะถูกส่งมาจาก ระบบซื้อ, ระบบขาย, การเงิน และระบบอื่น ๆ
  1. จัดเตรียมผังบัญชีตัวอย่างไว้ให้ และสามารถ แก้ไข เพิ่มเติม ลบทิ้ง เพื่อให้ตรงกับระบบงานของบริษัทได้
  2. สามารถสร้างงบการเงินได้ทุกรูปแบบ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของธุรกิจแต่ละประเภท อาทิเช่น
    - ในงบเปรียบเทียบสามารถนำข้อมูลมาแสดงเปรียบเทียบได้สูงสุด 18 คอลัมน์
    - ข้อมูลที่นำมาแสดงสามารถสร้างสูตรเพื่อคำนวณ หรือดึงมาจากฟิลด์ข้อมูลที่กำหนดให้
    - ในแต่ละคอลัมน์สามารถเลือกให้แสดงข้อมูลเฉพาะแผนกตามที่ต้องการ
    - สามารถแสดงข้อมูลในรูปอัตรา % โดยใช้ยอดรวมของข้อมูลเป็นฐานการคำนวณ
    - ในงบเดียวกัน ในแต่ละบรรทัด หรือแต่ละบัญชี สามารถดึงข้อมูลจากคนละฟิลด์มาแสดงได้
    - สามารถกำหนดข้อความ(Wording)ที่จะแสดงในรายละเอียดหน้างบได้ตามต้องการ
  3. มีระบบควบคุมเงินสดย่อย หรือเงินทดลองจ่าย สามารถดูความเคลื่อนไหวของเงินสดได้ตลอดเวลา
  4. รายงานสมุดเงินสดย่อย สามารถกำหนดชื่อค่าใช้จ่ายที่แสดงในหัวรายงานของแต่ละคอลัมน์ได้เอง 4 ชื่อ
  5. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบใบเบิกเงินสดย่อยและใบเบิกชดเชยเงินสดย่อย ได้ตามความต้องการ
  6. สามารถบันทึกค่าใช้จ่ายที่มีใบกำกับภาษีหลายใบ ในใบสำคัญจ่าย(Voucher)ใบเดียวกัน
  7. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบใบสำคัญ (Voucher) ได้ตามความต้องการ
  8. สามารถพิมพ์หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ทั้งแบบภงด.3 และภงด.53 ตรงตามแบบกรมสรรพากร



  9. สามารถลำดับ (Running) เลขที่ใบสำคัญในสมุดรายวันได้ 5 แบบ ได้แก่ 0=ป้อนเลขที่เอง, 1=YMMDDxx, 2=YMMxxxx, 3=YYMMxxxx, 4=YYMMDDxx (Y=ปี, M=เดือน, D=วันที่เอกสาร, x=Running Number)
  10. สามารถกำหนดผังบัญชีให้แยกตามแผนกได้ไม่จำกัด (Cost Center)
  11. มีระบบล็อคงวดบัญชี ทำให้ป้องกันการเพิ่มหรือแก้ไขข้อมูลในงวดที่ปิดบัญชีไปแล้ว


  12. สามารถกำหนดวันเริ่มต้นรอบระยะเวลาบัญชีของบริษัท ตามวันเดือนที่แจ้งกับสรรพากร
  13. สามารถป้อนข้อมูลของปีถัดไปได้ไม่จำกัดโดยไม่ต้องรอการปิดบัญชีสิ้นปี ทำให้การทำงานต่อเนื่องไม่ล่าช้าและเมื่อทำการปิดสิ้นปี ระบบบัญชี Express ก็จะนำข้อมูลเข้าไปในงวดที่ถูกต้องให้โดยอัตโนมัติ
  14. สามารถเก็บข้อมูลรายวันได้สูงสุด 24 งวด และงวดที่ 24 ไม่จำกัดเวลา ขึ้นอยู่กับผู้ใช้กำหนด
  15. สามารถดึงบัญชีต้นแบบ (Template) มาลงรายการรายวัน ทำให้รวดเร็ว และช่วยบุคคลากรที่มีความรู้ทางด้านบัญชีน้อย สามารถบันทึกบัญชีได้ถูกต้อง
  16. สามารถกำหนดยอดประมาณการ (Budget) ของแต่ละบัญชี ได้ 12 เดือน เพื่อแสดงในงบประมาณการ
  17. สามารถบันทึกรายการด้านเดบิทและเครดิตได้ไม่จำกัดจำนวนรายการ (Compound Entry)
  18. โปรแกรมบัญชี Express จะทำการตรวจสอบยอดเดบิทและเครดิตให้สมดุลย์ ก่อนบันทึก
  19. สามารถเลือกวิธีบันทึกบัญชีสินค้าได้ทั้งแบบ Periodic และ Perpetual
  20. สามารถกำหนดสมุดรายวันได้ไม่จำกัดจำนวน
  21. สามารถปรับเปลี่ยนเลขที่บัญชีได้ตลอดเวลา
  22. สามารถค้นหาข้อมูลตามเลขที่บัญชีหรือชื่อบัญชี และมี Look up ในกรณีที่จำไม่ได้
  23. ในใบสำคัญ(Voucher)แต่ละใบ สามารถบันทึกหมายเหตุเพิ่มเติมได้ 5 บรรทัดๆละ 50 ตัวอักษร
  24. สามารถบันทึกเอกสารอ้างอิงที่ทำการปรับปรุงตามหลักบัญชีตามประกาศกรมสรรพากรฉบับที่ 63
  25. เมื่อมีการลงบัญชีภาษีซื้อหรือภาษีขาย โปรแกรมจะนำไปบันทึกในแฟ้มภาษีซื้อหรือภาษีขายให้ทันที
  26. เมื่อมีการลงบัญชีภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย โปรแกรมจะนำไปบันทึกในแฟ้มภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายให้ทันที
  27. เมื่อมีการลงบัญชีเช็ครับหรือเช็คจ่ายล่วงหน้า โปรแกรมจะนำไปบันทึกในทะเบียนเช็ค ให้ทันที
  28. สามารถพิมพ์งบทดลองได้ทั้งแบบเต็ม (แสดงยอดยกมา,ยอดเคลื่อนไหว,ยอดคงเหลือ), แบบย่อ (แสดงเฉพาะยอดเคลื่อนไหว), แบบแยก 3 เดือน, แบบแยก 12 เดือน และแบบเต็ม/ย่อแยกตามแผนก


ระบบสินทรัพย์ถาวร

  1. สามารเลือกวิธีการคิดค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ได้ 3 วิธี ได้แก่
    - วิธีเส้นตรง (Straight-Line Method)
    - วิธีลดยอด (The Constant Percentage of Declining Book-Value Method)
    - กำหนดค่าเสื่อมราคาเอง
  2. สามารถจัดแยกกลุ่มการบันทึกบัญชีทรัพย์สิน ได้ตามต้องการ
  3. การคิดค่าเสื่อมราคาสามารถเลือกได้ 2 แบบ ได้แก่ คิดรายเดือน หรือคิดรายปี
  4. มีรายงานรายละเอียดค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาที่หักได้ตามพระราชกฤษฎีกาฯ สามารถนำส่งได้ทันที
  5. สามารถลงบัญชีค่าเสื่อมแยกตามแผนกได้
  6. เมื่อเริ่มนำข้อมูลเข้าระบบ สามารถเลือกได้ว่า จะให้ระบบคิดค่าเสื่อมทันที หรือ ยังไม่คิด (ถ้ายังไม่คิดขณะบันทึก ระบบจะทำงานได้เร็วกว่า เมื่อเรียบร้อยจึงไปสั่งคำนวณค่าเสื่อมราคาทั้งแฟ้ม)
  7. สามารถปรับเปลี่ยนรหัสทรัพย์สินได้ตลอดเวลา
  8. สามารถค้นหาข้อมูลตามรหัสสินทรัพย์หรือชื่อสินทรัพย์ และมี Look up ในกรณีที่จำไม่ได้

ระบบควบคุมสินค้าคงคลัง
ข้อมูลส่วนใหญ่จะถูกส่งมาจากระบบซื้อและระบบขายสินค้า
  1. สามารถกำหนดคลังสินค้าได้หลายคลัง โดยไม่จำกัดจำนวน
  2. สามารถเลือกวิธีการคิดต้นทุนได้ 2 แบบ ได้แก่
    - แบบต้นทุนถัวเฉลี่ย (Moving Weighted Average)
    - แบบเข้าก่อนออกก่อน (FIFO = First-In-First-Out)
  3. รองรับการขายสินค้าเป็นชุด (Component set=สินค้าที่มีส่วนประกอบมากกว่า 1 ชิ้น) เพียงแต่กำหนดว่าสินค้าชุดนั้นมีส่วนประกอบอะไรบ้าง เมื่อบันทึกการขาย ระบบบัญชี Express จะตัดส่วนประกอบในสต๊อคให้เองอัตโนมัติ



  4. ในสินค้าชุดสามารถเลือกตัดส่วนประกอบและพิมพ์ส่วนประกอบในบิลได้ เพียงแต่กำหนดเป็นชุดพิเศษ
  5. สามารถเลือกได้ว่าต้องการแสดงราคาขายที่ตัวสินค้าชุด หรือที่ส่วนประกอบ
  6. ในการซื้อสินค้าชุด โปรแกรมบัญชี Express จะทำการแตกย่อยเป็นส่วนประกอบและเพิ่มในสต็อคให้ทันที
  7. การเพิ่มสินค้าชุดใหม่ที่มีส่วนประกอบคล้ายกับสินค้าชุดเดิม สามารถก๊อปปี้สินค้าชุดเดิมมาแก้ไข-เพิ่มเติมได้ทันที
  8. สินค้าชุด 1 ชุด มีส่วนประกอบได้ 999 รายการ
  9. สามารถกำหนดหน่วยนับซื้อ, หน่วยนับขาย ต่างกับหน่วยนับหลักได้ (หน่วยนับที่เก็บไว้ในสต๊อคและเป็นหน่วยที่เล็กที่สุด) แต่ต้องมีอัตราส่วนที่สัมพันธ์กับหน่วยนับหลัก และมีทศนิยมได้ถึง 4 ตำแหน่ง
  10. สินค้าที่เก็บเป็นหน่วยย่อย แต่สามารถพิมพ์รายงานแสดงหน่วยได้ 2 ระดับ เช่น ยอดคงเหลือ 5 ลัง 4 ซอง
  11. มีตารางกำหนดอัตราส่วนต่อหน่วยนับหลักไว้ล่วงหน้า เพื่อสะดวกในการเรียกใช้ และควบคุม
  12. ระบบสามารถนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการซื้อหรือนำเข้า มาเฉลี่ยเป็นต้นทุนสินค้าได้ เช่น ค่าขนส่ง, ค่าภาษีสรรพสามิต, อากรขาเข้า ฯ
  13. สอบถามยอดคงเหลือในสต๊อคได้ตลอดเวลา ที่หน้าจอไหนก็ได้(กด Alt-F4) ทำให้ลูกค้าได้คำตอบทันทีโดยไม่ต้องรอนาน และไม่จำเป็นจะต้องออกจากงานที่เรากำลังทำอยู่
  14. สามารถเลือกได้ว่าต้องการให้ยอดสินค้าติดลบได้หรือไม่ ถ้าติดลบได้ (เปิดบิลไปก่อน) เมื่อบันทึกรับสินค้าเข้า ระบบบัญชี Express จะกระทบยอดสินค้าและต้นทุนย้อนหลังให้เองโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะมีการเปิดบิลขายไปแล้วซักกี่ใบก็ตาม
  15. สามารถกำหนดได้ว่าต้องการให้บุคลากรท่านใดทำการตัดสินค้าและติดลบในสต็อคได้บ้าง
  16. สามารถเก็บข้อมูลได้ทั้งสินค้าสำเร็จรูป, วัตถุดิบ, สินค้ากึ่งสำเร็จรูป, สินค้าประกอบ และสินค้าบริการ
  17. สามารถกำหนดราคาขายของสินค้าได้ 5 ระดับ และพิมพ์รายงาน Price List ได้
  18. สามารถกำหนดราคาเสริม สำหรับจัดโปรโมชั่น โดยกำหนดเงื่อนไข (เช่นซื้อ 10 ชิ้น ลด 2%) และกำหนดช่วงวันตามที่เราต้องการ (เช่น ช็อค!ลดกระหน่ำ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 31 กรกฎมคม 2544 นี้เท่านั้น)
  19. สามารถบันทึกการเบิกหรือรับเข้าสต๊อคที่ไม่เกี่ยวกับการซื้อหรือขาย เช่น เบิกวัตถุดิบไปผลิต, รับสินค้าเข้าจากการผลิตฯ
  20. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบของเอกสารการเบิกหรือรับสินค้าเข้า ที่แตกต่างกันได้ถึง 3 รูปแบบ
  21. มีระบบควบคุมการตรวจนับสินค้า เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว และถูกต้อง
  22. สามารถปรับเปลี่ยนรหัสสินค้าได้ตลอดเวลา
  23. สามารถค้นหาข้อมูลตามรหัสสินค้า หรือชื่อสินค้า และมี Look up ในกรณีที่จำรหัสไม่ได้
  24.  มีแฟ้มเก็บสินค้าที่มี Serial No. หรือ Part No. (แยกต่างหาก ไม่เชื่อมโยงกับระบบอื่นๆ)
  25. สามารถจัดแยกกลุ่มการคำนวณต้นทุนสินค้าว่ากลุ่มใดคำนวณแบบ FIFO และกลุ่มใดคำนวณแบบถัวเฉลี่ยภายในบัญชีสินค้าชุดเดียวกัน (สต๊อคเดียวกัน)
  26. สามารถจัดแยกกลุ่มการบันทึกบัญชีสินค้า และบัญชีวัตถุดิบ ได้ตามต้องการ
  27. สามารถกำหนดจุดสั่งซื้อ (Re-order) แยกตามเดือน เพื่อขายงานโครงการ หรือจัดโปรโมชั่นตามเทศกาล
  28. สามารถกำหนดจุดสูงสุดของสินค้า (Maximum) แยกตามเดือนหรืองวด ได้ตามต้องการ
  29. เตรียมคอลัมน์ วันที่ สำรองไว้ 2 คอลัมน์ต่อ 1 สินค้า เผื่อรองรับในกรณีที่ต้องการเพิ่มเติม
  30. เตรียมคอลัมน์ ข้อความ สำรองไว้ 4 คอลัมน์ต่อ 1 สินค้า เผื่อรองรับในกรณีที่ต้องการเพิ่มเติม
  31. เตรียมคอลัมน์ จำนวน (ตัวเลข) สำรองไว้ 1 คอลัมน์ต่อ 1 สินค้า เผื่อรองรับในกรณีที่ต้องการเพิ่มเติม
  32. สามารถควบคุมระบบสินค้าด้วยรหัสแท่ง (Barcode) และเครื่องอ่านบาร์โค้ด
  33. รองรับสินค้าที่อยู่ในกลุ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)อัตราปกติ และกลุ่มที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
  34. สินค้าในแต่ละคลังสามารถแสดง ปริมาณ, ต้นทุน, มูลค่าสินค้า, ปริมาณค้างรับ, ปริมาณค้างส่ง, ชั้นที่เก็บสินค้า และแผนก ซึ่งทำให้ธุรกิจบางประเภทได้ข้อมูลสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง สามารถทราบวัสดุคงเหลือและต้นทุนของวัสดุที่นำไปใช้ในแต่ละไซด์งานได้ทันที
  35. สามารถเลือกได้ว่าเมื่อทำการขายหรือเบิกสินค้า ที่ยอดคงเหลือต่ำกว่าจุดสั่งซื้อ ต้องการให้เตือนหรือไม่
ระบบการจองสินค้าและการจัดจำหน่าย
  1. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบในแต่ละเอกสารที่แตกต่างกันได้ 3 รูปแบบ ตัวอย่างเช่น ใบเสนอราคา, บิลเงินสด และเฉพาะใบสั่งขาย, ใบกำกับสินค้า/ใบกำกับภาษี สามารถกำหนดได้ถึง 9 แบบ
  2. สามารถบันทึกขายสินค้าที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)อัตราปกติ และที่ได้รับยกเว้นภาษี ไว้ในบิลใบเดียวกันได้



  3. สามารถกำหนดได้ว่าต้องการให้บุคลากรท่านใดเข้าไปแก้ไขราคาขายในขณะที่กำลังบันทึกการขายได้บ้าง
  4. รองรับการขายที่มีการรับเงินมัดจำล่วงหน้า และพิมพ์ใบเสร็จ/ใบกำกับภาษี ตอนรับเงินมัดจำ
  5. ในอินวอยส์ 1 ใบ สามารถบันทึกรายการสินค้าได้สุงสุด 999 รายการ และพิมพ์ใบต่อเนื่องเรียงตามลำดับรายการให้เอง และเลือกได้ว่าต้องการป้อนลำดับที่เอง หรือให้โปรแกรมจัดลำดับที่ให้
  6. สามารถเปลี่ยนชื่อสินค้าในใบกำกับสินค้าได้ตามต้องการ
  7. สามารถขายสินค้าด้วยหน่วยนับที่แตกต่างกับหน่วยนับที่เก็บในสต๊อคได้ เพียงแต่มีอัตราส่วนที่สัมพันธ์กัน
  8. รองรับการขายสินค้าที่มีของแถม และในรายงานวิเคราะห์การขาย สามารถแยกยอดออกให้เห็นได้ชัดเจนว่า ปริมาณสินค้าที่ขาย เป็นเงินจำนวนเท่าไร? และส่วนของแถมเท่าไร ?
  9. หลังจากบันทึกใบอินวอยส์ สามารถทราบกำไรขั้นต้นต่ออินวอยส์ได้ทันที
  10. สามารถบันทึกส่วนลดแต่ละรายการสินค้า และส่วนลดจากยอดรวม ซึ่งลดเป็นจำนวนเงิน(บาท), เปอร์เซ็นต์และเป็นเปอร์เซ็นต์หลายชั้น เช่น 5+3+2 ( ลด 5% เหลือเท่าไหร่ลดอีก 3% เหลือเท่าไหร่ลดอีก 2%)
  11. สามารถกำหนดได้ว่าถ้ามีการขายสินค้าต่ำกว่าจุดสั่งซื้อ ต้องการให้เตือนหรือไม่



  12. สามารถกำหนดได้ว่าถ้ามีการขายสินค้าต่ำกว่าราคาทุน ต้องการให้เตือนหรือไม่



  13. สามารถกำหนดคลังสินค้าที่ต้องการขายได้ ทั้งในใบสั่งขาย และใบอินวอยส์
  14. มีระบบเตือน เมื่อทำการบันทึกขายเชื่อ หรือใบสั่งขายเกินวงเงินที่อนุมัติไว้
  15. การอนุมัติลูกค้าเกินวงเงิน สามารถเลือกได้ว่าจะให้อนุมัติตอนออกเอกสาร หรือจะให้เอกสารไปก่อนแล้วอนุมัติทีหลัง
  16. สามารถกำหนดวงเงินขายเชื่อ และระดับผู้อนุมัติวงเงิน ได้ตามต้องการถึง 5 ระดับ
  17. มีระบบควบคุมการจองสินค้า เพื่อทยอยส่งสินค้าตามคิว, นำเข้าสินค้า/ผลิตสินค้าตามยอดสั่งจอง (Order)
  18. ในใบสั่งขายใบเดียวกัน สามารถกำหนดวันที่ส่งสินค้าแยกกันคนละวันได้ตามวันเวลาที่ลูกค้าสั่ง
  19. สามารถทำการยกเลิกยอดที่ค้างส่งในใบสั่งขายได้ทั้งใบได้



  20. สามารถออกใบกำกับสินค้าได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง จนกว่าจะส่งสินค้าครบตามยอดสั่งจอง
  21. รองรับธุรกิจการขายบริการ (เกณฑ์เงินสด) และจะปรับยอดภาษีขายให้ เมื่อบันทึกรับชำระเงิน
  22. รองรับธุรกิจฝากขาย โดยใช้คลังสินค้าเป็นสถานที่ฝากขายสินค้า
  23. ในใบอินวอยส์สามารถเพิ่มคำอธิบายแต่ละรายการสินค้าได้จำนวน 10 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร และเพิ่มคำอธิบายหมายเหตุได้จำนวน 5 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร
  24. ในใบเสนอราคาสามารถกำหนดสถานะของลูกค้า ช่วยให้การติดตามผลการขายมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  25. สามารถเซ็ตใบเสนอราคาให้เป็นต้นแบบ Price List เพื่อดึงมาพิมพ์ใบแจ้งหนี้ได้ตลอดเวลา ทำให้อำนวยความสะดวกสำหรับธุรกิจ เช่าอพาร์ทเม้นท์, ค่าสมาชิกรายเดือน จะได้ไม่ต้องคีย์รายการเดิมซ้ำทุกเดือน
  26. สามารถโอนใบเสนอราคา ไปเป็นใบสั่งขาย หรือ ใบอินวอยส์ ได้ทันทีโดยไม่ต้องคีย์ข้อมูลใหม่อีกครั้ง
  27. สามารถกำหนดเหตุผลในการยกเลิกใบเสนอราคาได้ตามต้องการ
  28. สามารถเพิ่มแฟ้มหลักของสินค้า, ลูกค้า, พนักงานขาย และเขตการขายได้ในขณะบันทึกรายวันขาย
  29. เมื่อบันทึกการขาย ระบบบัญชี Express จะตั้งลูกหนี้, ตัดสต๊อค, บันทึกภาษีขาย, ลงบัญชี และเก็บสถิติการขายให้ทันที

ระบบควบคุมลูกหนี้และรายได้อื่น ๆ
ข้อมูลลูกหนี้จะถูกส่งมาจากระบบขายสินค้า
  1. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบในแต่ละเอกสารที่แตกต่างกันได้ถึง 3 รูปแบบ เช่น ใบวางบิล, ใบเสร็จรับเงิน, ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี, ใบลดหนี้/รับคืนสินค้า และใบเพิ่มหนี้
  2. สามารถบันทึกรายได้ ที่นอกเหนือจากลูกหนี้จากการขายสินค้า
  3. สามารถรับชำระหนี้ได้อย่างสะดวกทั้งการรับชำระแบบเต็มบิล หรือรับชำระบางส่วน
  4. การรับชำระหนี้สามารถชำระโดย เงินสด, เช็ค(กี่ใบก็ได้), บัตรเครดิต(เหมือนเช็ค), โอนเงินเข้าบัญชี, ดร๊าฟ, หักภาษี ณ ที่จ่าย, ส่วนลด และกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
  5. เพื่อลดโอกาสการเกิดหนี้สูญ ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์สภาพหนี้จากงบอายุหนี้ ทั้งแบบสรุป และแบบละเอียด และสามารถกำหนดช่วงการวิเคราะห์อายุหนี้ได้เอง
  6. มีรายงานใบวางบิลตามวันที่นัดรับเงิน เพื่อโทรไปเตือนลูกค้าให้เตรียมเช็ค และใช้วางแผนเส้นทางของพนักงานเก็บเงิน
  7. ในใบลดหนี้/รับคืนสินค้า สามารถเลือกได้ว่าจะหักจากใบกำกับสินค้าเดิม, เก็บไว้หักเมื่อรับชำระหนี้ หรือจ่ายเป็นเงินสด
  8. ในเอกสารแต่ละใบสามารถเพิ่มคำอธิบายหมายเหตุได้ จำนวน 5 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร
  9. มีใบตรวจสอบวงเงินสินเชื่อของลูกค้า เพื่อเป็นเอกสารประกอบการพิจารณาเรื่องเพิ่มวงเงิน
  10. สามารถพิมพ์รายชื่อของลูกค้าลงบนสติกเกอร์และจ่าหน้าซองจดหมายได้
  11. สามารถปรับเปลี่ยนรหัสลูกค้า, รหัสพนักงานขาย และรหัสรายได้อื่น ๆ ได้ตลอดเวลา



  12. สามารถค้นหาข้อมูลตามรหัสลูกค้า หรือชื่อบริษัท และมี Look up ในกรณีที่จำรหัสไม่ได้
  13. ในรายละเอียดพนักงานขาย สามารถกำหนดอัตราคอมมิชชั่นและเป้าการขายได้ 24 งวด เพื่อคำนวณหายอดคอมมิชชั่น
  14. ยอดขายของพนักงานขาย สามารถแยกได้ตามวันที่รับเงิน และวันที่เช็คผ่าน เพื่อนำยอดไปคิดคอมมิชชั่น
  15. สำหรับธุรกิจบริการ สามารถพิมพ์ใบกำกับภาษี ให้กับลูกค้าได้ทันที ที่รับชำระเงิน
ระบบจัดซื้อสินค้าและการรับสินค้า
  1. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบในแต่ละเอกสารที่แตกต่างกันได้ถึง 3 รูปแบบ เช่น ใบสั่งซื้อ และใบรับสินค้า
  2. รองรับภาษีซื้อแบบที่ขอคืนได้ไม่เต็มจำนวน โดยระบบบัญชี Express จะเฉลี่ยภาษีซื้อที่ขอคืนได้และภาษีซื้อที่ขอคืนไม่ได้ ให้เองอัตโนมัติ
  3. วันที่ที่ได้รับสินค้า เป็นคนละวันกับวันที่ของใบกำกับภาษีซื้อได้
  4. สามารถบันทึกรับสินค้าที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)อัตราปกติ และกลุ่มที่ได้รับยกเว้นในใบรับสินค้าใบเดียวกันได้
  5. สามารถบันทึกการซื้อที่มีการจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าได้
  6. สามารถบันทึกส่วนลดแต่ละรายการสินค้า และส่วนลดจากยอดรวม ซึ่งลดเป็นจำนวนเงิน(บาท), เปอร์เซ็นต์และเป็นเปอร์เซ็นต์หลายชั้น เช่น 5+3+2 ( ลด 5% เหลือเท่าไหร่ลดอีก 3% เหลือเท่าไหร่ลดอีก 2%)
  7. เปิดโอกาสให้แก้ไขยอดภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ให้ตรงกับใบกำกับภาษีของผู้จำหน่ายได้
  8. สามารถซื้อสินค้าด้วยหน่วยนับที่แตกต่างกับหน่วยนับที่เก็บในสต๊อคได้ เพียงแต่มีอัตราส่วนที่สัมพันธ์กัน
  9. ในใบสั่งซื้อ สามารถบันทึก ขนส่งโดย, สถานที่ที่จะให้ส่งสินค้า และคลังที่ทำการสั่งซื้อได้
  10. ในใบสั่งซื้อใบเดียวกัน สามารถกำหนดวันที่รับสินค้าแต่ละตัวแยกกันคนละวันได้ตามต้องการ ประโยชน์ก็คือ สามารถทยอยส่งสินค้าตาม Order ของลูกค้าได้
  11. สามารถบันทึกการรับสินค้า โดยอ้างอิงถึงใบสั่งซื้อสินค้า หรือไม่ต้องเปิดใบสั่งซื้อก่อนก็ได้
  12. ในใบสั่งซื้อ โปรแกรมจะควบคุมยอดที่สั่งซื้อและค้างรับ และสามารถรับสินค้าตามที่สั่งได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง จนกว่าจะรับสินค้าครบตามยอดสั่งซื้อ
  13. มีรายงานสินค้าที่ถึงจุดสั่งซื้อ (เพื่อเตือนฝ่ายจัดซื้อสั่งของเพื่อให้ทันขาย) แยกตามหมวดสินค้าและผู้จำหน่าย
  14. สามารถสั่งซื้อสินค้าตามยอดสั่งจอง(Order) ช่วยลดภาระการสต๊อคสินค้า โดยดูจากรายงานสินค้าค้างส่ง
  15. สามารถสั่งซื้อวัตถุดิบตามยอดสั่งจองสินค้า(Order) โดยใช้สินค้าชุดช่วยคำนวณหายอดวัตถุดิบที่จะต้องใช้ในการผลิต
  16. ในเอกสารแต่ละใบสามารถเพิ่มคำอธิบายรายการสินค้าได้ จำนวน 10 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร
  17. ในเอกสารแต่ละใบสามารถเพิ่มคำอธิบายหมายเหตุได้ จำนวน 5 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร
  18. สามารถเพิ่มสินค้า และผู้จำหน่าย ได้ในขณะบันทึกรายการซื้อ



  19. สามารถบันทึกรายการซื้อสินค้าได้สุงสุด 999 รายการ/เอกสาร
  20. รองรับธุรกิจการซื้อบริการ (เกณฑ์เงินสด) และจะปรับยอดภาษีซื้อให้ เมื่อบันทึกจ่ายชำระหนี้
  21.  เมื่อบันทึกรับสินค้าโปรแกรมบัญชี Express จะตั้งเจ้าหนี้, เพิ่มสต๊อค, บันทึกภาษีซื้อ, ลงบัญชี และเก็บสถิติการซื้อให้ทันที

ระบบควบคุมเจ้าหนี้และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
ข้อมูลเจ้าหนึ้จะถูกส่งมาจากระบบซื้อสินค้า
  1. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบในแต่ละเอกสารที่แตกต่างกันได้ถึง 3 รูปแบบ เช่น ใบรับวางบิล, ใบจ่ายเงิน, ใบลดหนี้/ส่งคืนสินค้า, ใบเพิ่มหนี้ และหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย
  2. สามารถบันทึกค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากเจ้าหนี้จากการซื้อสินค้า
  3. สามารถจ่ายชำระหนี้ได้อย่างสะดวกทั้งการจ่ายชำระแบบเต็มบิล หรือจ่ายชำระบางส่วน
  4. การจ่ายชำระหนี้สามารถชำระโดย เงินสด, เช็ค(กี่ใบก็ได้), บัตรเครดิต(เหมือนเช็ค), โอนเงิน, ดร๊าฟ, หักภาษี ณ ที่จ่าย, ส่วนลด และกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
  5. สามารถเรียกดูยอดบิลที่ยังค้างจ่ายของเจ้าหนี้แต่ละราย (ทั้งแบบสรุปและละเอียด) เพื่อใช้ประมาณการรายจ่าย โดยกำหนดช่วงเวลาที่บิลจะครบกำหนดได้เอง เช่น จะต้องจ่ายภายใน 7 วัน 15 วัน 30 วัน เป็นเงินเท่าไร
  6. มีรายงานใบรับวางบิลตามวันที่นัดจ่ายเช็ค ทำให้ทราบรายจ่ายล่วงหน้า เพื่อเตรียมทำจ่ายได้ถูกต้อง
  7. ในเอกสารแต่ละใบสามารถเพิ่มคำอธิบายหมายเหตุได้ จำนวน 5 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร
  8. สามารถพิมพ์รายชื่อของผู้จำหน่ายลงบนสติกเกอร์และจ่าหน้าซองจดหมาย
  9. สามารถปรับเปลี่ยนรหัสผู้จำหน่าย และรหัสค่าใช้จ่าย ได้ตลอดเวลา
  10. สามารถค้นหาข้อมูลตามรหัสผู้จำหน่าย หรือชื่อบริษัท และมี Look up ในกรณีที่จำรหัสไม่ได้
  11. สามารถพิมพ์หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ทั้งแบบ ภงด.3 และภงด.53 ถูกต้องตามแบบกรมสรรพากรกำหนด
  12. ในใบลดหนี้/ส่งคืนสินค้า สามารถเลือกได้ว่า จะหักจากใบรับสินค้าเดิม หรือเก็บไว้หักเมื่อจ่ายชำระหนี้ หรือ รับเป็นเงินสด

ระบบควบคุมเช็คและเงินฝากธนาคาร
เช็ครับและเช็คจ่ายจะถูกส่งมาจากการรับชำระหนี้ และจ่ายชำระหนี้
  1. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบเช็คที่แตกต่างกันได้ 6 ธนาคาร
  2. การรับชำระ/จ่ายชำระหนี้ด้วยเช็ค ระบบบัญชี Express จะนำเช็คไปเก็บไว้ในทะเบียนเช็ค เพื่อให้ผู้มีหน้าที่ดูแลและตรวจสอบ
  3. มีรายงานเช็ครับเรียงตามวันที่เช็ค เพื่อช่วยเตือนว่ามีเช็คใบไหนที่ถึงกำหนดนำฝาก
  4. สามารถพิมพ์ใบนำฝากเช็ค(Pay in Slip) แทนการเขียนด้วยมือ ทำให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น



  5. สามารถบันทึกการผ่านเช็คทั้งชุดที่นำฝาก หรือผ่านเช็คทีละใบก็ได้
  6. สามารถเก็บประวัติเช็คคืน (เช็คเด้ง) เพื่อเก็บไว้พิจารณาการให้เครดิต
  7. มีรายงานเช็คจ่ายเรียงตามเลขที่เช็ค สำหรับตรวจสอบกับสมุดเช็คแต่ละใบที่เซ็นต์จ่ายไป
  8. มีรายงานเช็คจ่ายเรียงตามวันที่เช็ค เพื่อเตือนให้ฝ่ายการเงินทราบว่าจะมีเช็คใบไหนบ้างและจำนวนเงินเท่าไหร่ ? ที่จะตัดจากบัญชี จะได้เตรียมโอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์เข้าบัญชีกระแสรายวันได้ทันเวลา
  9. สามารถกำหนดให้ระบบทำการผ่านเช็คจ่ายให้เองอัตโนมัติ (ไม่ต้องเสียเวลาผ่านเอง)
  10. สามารถบันทึกรายการที่เกี่ยวข้องกับบัญชีเงินฝากธนาคาร เช่น ฝาก/ถอนเงินสด, โอนเงินระหว่างธนาคาร, จ่ายค่าธรรมเนียม ฯ และพิมพ์รายงานเพื่อนำมากระทบยอดกับ Bank Statement ได้ (ทำ Bank Reconcile)
  11. สามารถถอนเงินสดด้วยเช็คของบริษัท และบันทึกการขายลดเช็คได้

ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) และภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
ข้อมูล จะถูกส่งมาจากระบบการซื้อสินค้า, ค่าใช้จ่ายอื่นๆ, ลดหนี้/ส่งคืนสินค้า, ขายสินค้า, รายได้อื่นๆ, ลดหนี้/รับคืนสินค้า และระบบบัญชี
  1. สามารถบันทึกการซื้อ/ขายได้ทั้งแบบ ราคารวมภาษี (Inclusive) และราคาแยกภาษี (Exclusive) รวมทั้งรายการสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษี
  2. สามารถพิมพ์รายงานภาษีซื้อ, ภาษีขาย และมูลค่าฐานภาษี ที่มีข้อมูลครบถ้วนตามที่กรมสรรพากรกำหนด และนำตัวเลขมากรอกในแบบ ภ.พ.30 พร้อมนำส่งทุกวันที่ 15 ได้ทันที
  3. รองรับธุรกิจที่ขอคืนภาษีซื้อได้ไม่เต็มจำนวน โปรแกรมจะพิมพ์รายงานภาษีซื้อแยกเป็น 2 ยอด คือ ยอดที่ขอคืนได้ และยอดที่ขอคืนไม่ได้
  4. รองรับกรณีที่มีใบกำกับภาษีมาถึงล่าช้าแต่ไม่เกิน 6 เดือน และกรณีเกิน 6 เดือน ระบบจะแยกรายงานภาษีซื้อออกเป็น 2 รายงาน ได้แก่ รายงานภาษีซื้อ (ยื่นปกติ) และรายงานภาษีซื้อ (ยื่นเพิ่มเติม)
  5. รายงานภาษีซื้อ สามารถเลือกพิมพ์ออกเครื่องพิมพ์และจอภาพได้ทั้ง 2 แบบ ได้แก่
    - เรียงตามวันที่ ที่ได้รับใบกำกับภาษี ตามประกาศกรมสรรพากรฉบับที่ 89 มีผลตั้งแต่ 29 เม.ย. 2542
    - เรียงตามวันที่ใบกำกับภาษี ตามประกาศฉบับเก่า (จะค้นหาใบกำกับภาษีในรายงานได้ง่ายกว่า)
  6. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบรายงานภาษีซื้อที่แตกต่างกันได้ 6 แบบ และมีต้นฉบับที่ช่วยให้แก้ไขได้ 7 แบบ
  7. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบรายงานภาษีขายที่แตกต่างกันได้ 6 แบบ และมีต้นฉบับที่ช่วยให้แก้ไขได้ 7 แบบ
  8. สามารถเลือกวิธีการบันทึกบัญชีภาษีมูลค่าเพิ่มได้ 2 แบบ คือ แบบเกณฑ์สิทธิ และแบบเกณฑ์เงินสด
  9. สามารถพิมพ์รายงานภาษีซื้อ, ภาซื้อขาย และแบบยื่น ภงด. แยกตามแผนกได้
  10. สามารถพิมพ์แบบยื่น ภงด.3, ภงด.53 ซึ่งตรงตามแบบสรรพากรกำหนด และแนบนำส่งทุกวันที่ 7 ของเดือนได้ทันที
  11. สามารถกำหนดประเภทเงินได้ และอัตราที่หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ล่วงหน้า ทำให้เวลาที่ทำใบหัก จะได้ไม่ผิดพลาด

ระบบวิเคราะห์การขาย
ทำ การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการขายสินค้า และจัดทำเป็นรายงานทั้งแบบสรุปและแบบละเอียด ข้อมูลเปรียบเทียบ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประกอบด้วยรายงานดังต่อไปนี้
  1. ประวัติการขายแยกตามลูกค้า,ตามสินค้า และตามพนักงานขาย
  2. ยอดขายแยกตามเขตการขาย แจกแจงตามพนักงานขาย, ลูกค้า ทั้งแบบละเอียดและสรุป
  3. สรุปยอดขายประจำงวด
  4. สรุปยอดขายเชื่อแยกตามลูกค้า (เปรียบเทียบ 12 งวด)
  5. รายงานการจัดลำดับยอดขาย แยกตามมูลค่าสินค้า, ตามปริมาณ, ตามมูลค่าของแต่ละสินค้า+ลูกค้า, ตามปริมาณของแต่ละสินค้า+ลูกค้า, ตามมูลค่าของแต่ละสินค้า+พนักงานขาย, ตามปริมาณของแต่ละสินค้า+พนักงานขาย, ตามลูกค้า และตามพนักงานขาย
  6. สรุปยอดขาย(ทราบกำไรขั้นต้นทันที) แยกตามหมวดสินค้า, ตามคลัง, ตามลูกค้า, ตามพนักงานขาย(เทียบกับเป้าการขาย), ตามพนักงานขาย+ลูกค้า, ตามเขตการขาย+พนักงานขาย และตามเขตการขาย+ลูกค้า

ระบบวิเคราะห์การซื้อ
ทำ การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อสินค้า และจัดทำเป็นรายงานทั้งแบบสรุปและแบบละเอียด ข้อมูลเปรียบเทียบ เพื่อใช้ในการวางแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในอนาคต ประกอบด้วยรายงานดังต่อไปนี้
  1. ประวัติการซื้อ แยกตามผู้จำหน่าย และสินค้า
  2. สรุปยอดซื้อประจำงวด
  3. สรุปยอดซื้อเชื่อ แยกตามผู้จำหน่าย (เปรียบเทียบ 12 งวด)
  4. สรุปยอดซื้อ แยกตามหมวดสินค้า, ตามคลัง และตามผู้จำหน่าย

ระบบรักษาความปลอดภัย
  1. ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดสิทธิการใช้ข้อมูลของผู้ใช้งานแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่ม ได้ตามต้องการ ทำให้ป้องกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปดูข้อมูลที่เป็นความลับ



  2. ผู้ใช้แต่ละคน สามารถตั้งรหัสผ่าน (PassWord) ของตนเองได้
  3. สามารถแบ่งระดับชั้นของผู้ใช้งานได้ว่าเป็น พนักงาน, ผู้จัดการแผนก หรือ ผู้ดูแลระบบ
  4. สามารถกำหนดสิทธิการใช้ข้อมูลได้ทุกเมนูย่อย แม้แต่เมนูย่อย/รายงาน/งบการเงิน ที่สร้างเพิ่มเติมขึ้นเอง
  5. การเพิ่ม แก้ไข ยกเลิก ลบ สามารถกำหนดได้ว่า ถ้าผู้ใช้เข้าไปทำงานแล้วต้องการให้เก็บประวัติไว้หรือไม่
  6. การพิมพ์เอกสาร สามารถกำหนดได้ว่า ต้องการให้ใครพิมพ์ดูได้เฉพาะหน้าจอ หรืออนุญาตให้ใครพิมพ์ออกเครื่องพิมพ์ได้
  7. สามารถกำหนดการตรวจสอบแบบเข้มงวด ทำให้ง่ายสำหรับผู้ดูแลระบบ โดยไม่จำเป็นจะต้องเข้าไปกำหนดสิทธิการใช้งานเพิ่มอีก โปรแกรมบัญชี Express จะจัดการบันทึกเหตุการณ์ของผู้ใช้งานรายนั้นเก็บไว้ให้ทุกครั้ง
  8. สามารถกำหนดการยกเลิกการใช้รหัสผู้ใช้บางรหัสเป็นการชั่วคราว อาจเนื่องมาจาก พนักงานผู้นั้นลาออก หรือลาพักร้อนเป็นเวลานาน ๆ แต่ยังไม่ต้องการลบรหัสผู้ใช้รหัสนี้ทิ้ง
  9. มีแฟ้มบันทึกเหตุการณ์ การทำงานของผู้ใช้ทุกคน ที่เข้ามาใช้งานในระบบ สำหรับผู้ดูแลระบบใช้ในการตรวจสอบการทำงานของผู้ใช้แต่ละคน
  10. สามารถกำหนดสิทธิให้กับผู้ใช้แต่ละราย ว่าใครมีอำนาจในการอนุมัติ (รับรอง) เอกสารได้บ้าง
  11. เอกสารสำคัญที่ต้องการให้ผู้มีอำนาจรับรองก่อน สามารถกำหนดเงื่อนไขการรับรองเอกสารได้ 3 วิธี คือ
    1. พิมพ์ก่อนรับรองทีหลัง
    2. รับรองก่อนแล้วถึงจะพิมพ์ได้
    3. อะไรก่อนก็ได้
  12. สาม

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้